คำถามที่พบบ่อย

เป็นนักศึกษาเต็มเวลา (Full Time Student) ในมหาวิทยาลัย มีทักษะภาษาอังกฤษทั้งการพูด ฟัง อ่าน เขียน อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

โครงการ Work and Travel in USA จะอยู่ในช่วงของการปิดภาคเรียน แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงสปริง Spring (เดือนมีนาคม - เดือนกรกฎาคม) และช่วงฤดูร้อน Summer (เดือนพฤษภาคม - เดือนกันยายน) จะมีระยะเวลาแต่ละช่วงประมาณ 2 เดือนครึ่ง ถึง 4 เดือน ผู้เข้าร่วมร่วมโครงการฯ จะได้รับวีซ่าประเภท J-1 ทำให้สามารถอยู่ท่องเที่ยวต่อในประเทศสหรัฐอเมริกาได้อีก 30 วัน นับจากวันที่สิ้นสุดบนวีซ่า แต่ไม่สามารถทำงานในช่วงนั้นๆได้

ลักษณะงานของ Work and Travel USA จะมีความคล้ายๆกันทุกปี เช่น ประเภทงานในร้านอาหาร, ร้านอาหาร Fast Food, ร้านขายของ Gift Shop, งานในสวนสนุก, งานในโรงแรม เป็นต้น แต่ละตำแหน่งงานจะมีเกณฑ์การรับสมัครและค่าตอบแทนแตกต่างกัน

ทางโครงการฯ จะให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการทุกคนได้เลือกตำแหน่งงานที่สนใจก่อน โดยสามารถดูงานที่เปิดรับสมัครและรายละเอียดงานได้บนหน้าเว็บไซต์ของโครงการ ซึ่งในแต่ละงานจะมีคุณสมบัติกำหนดไว้ หากคุณสมบัติของผู้สมัครตรงตามที่นายจ้างกำหนด ผู้สมัครจะต้องเข้าสัมภาษณ์งานกับนายจ้างหรือตัวแทนนายจ้างเพื่อประเมินการทดสอบภาษาอังกฤษและทัศนคติ หากนักศึกษาคุณสมบัติไม่ตรงตามกำหนด นักศึกษาต้องเลือกสมัครงานอื่นที่ตรงกับคุณสมบัติของตนต่อไป

ผู้สมัครต้องทำการขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางองค์กรที่ดูแลในประเทศอเมริกาก่อน จึงจะสามารถเริ่มทำงานเสริมได้ และงานเสริมจะต้องไม่มีผลกระทบใด ๆ กับงานหลัก

ทางโครงการจะแนะนำที่พักให้ หรือนายจ้างจัดหาหรือแนะนำให้ (ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่) โดยนักศึกษาจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ที่พักของสถานที่ทำงานแต่ละที่ไม่เหมือนกัน บางที่อาจจะมีที่พักอยู่ที่ที่ทำงานเลย แต่บางที่อาจจะอยู่ห่างออกไป แต่สามารถเดินทางโดยรถโดยสาร จักรยาน เดิน หรือ ทางนายจ้างอาจมีรถรับส่งให้ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางเอง

การรับค่าจ้าง มีทั้งแบบเพลย์เช็ค (Paycheck) หรือ โอนเข้าบัญชี (Transfer) หากการจ่ายเงินของนายจ้างเป็นแบบโอนเข้าบัญชี นักศึกษาจะต้องเปิดบัญชีที่ธนาคารใกล้ ๆ สถานที่ทำงาน และในการจ่ายค่าจ้างแต่ละครั้งผู้ว่าจ้างจะมีสรุปรายละเอียดชั่วโมงงาน รายได้ และภาษีเงินได้ต่างๆ ที่หักไว้ เพื่อแสดงแก่ผู้รับรายได้

ชั่วโมงงานส่วนใหญ่ขั้นต่ำอยู่ที่ 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับนายจ้างของแต่ละที่ทำงาน

ควรจะเตรียมเงินไว้สำหรับค่าที่พักและอาหาร ประมาณ 1,600 USD

โครงการมีบริการช่วยเหลือในด้านการจองตั๋วเครื่องบินให้สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องแจ้งความประสงค์ว่าจะให้ทางโครงการดำเนินการให้หรือจะทำการจองตั๋วเครื่องบินเอง หากผู้เข้าร่วมโครงการจะดำเนินการจองตั๋วเครื่องบินเอง จะต้องจองตั๋วให้ไปถึงที่ประเทศปลายทางตามวันเวลาและสนามบินที่ทางโครงการกำหนดเท่านั้น

ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ไม่เกิน 3 ครั้ง หากยังคงสภาพเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย (ปริญญาตรี / ปริญญาโท) โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน 26 ปี ณ วันเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา

ขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงานของผู้เข้าร่วมโครงการ บางพื้นที่จะมีรถมารับที่สนามบินโดยเจ้าหน้าที่โครงการหรืออาจจะเป็นนายจ้าง หากพื้นที่ไหนไม่มีบริการมารับที่สนามบิน ทางโครงการจะช่วยประสานงานและแนะนำวิธีการเดินทางให้ผู้เข้าร่วมโครงการทราบต่อไป

ผู้ที่ทำงานในประเทศอเมริกาทุกคนจะต้องเสียภาษี และสำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ Work and Travel USA จะถูกหักภาษี อยู่ 3 ประเภท คือ Federal Income Tax, State Income Tax, City Income Tax ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีที่ถูกหักไปได้ในปีถัดไป